แอดแวนเจอร์ พิจิตร เปิดประสบการณ์เที่ยวธรรมชาติสุดมันส์

พิจิตร จังหวัดเล็ก ๆ ที่แฝงเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมเอาไว้ได้อย่างลงตัว แม้จะไม่ใช่จุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายหลัก แต่สำหรับสายแอดแวนเจอร์แล้ว ที่นี่คือขุมทรัพย์แห่งกิจกรรมกลางแจ้งที่ยังไม่ถูกค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นการล่องแก่งในลำธารใส เดินป่าผ่านเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หรือพายคายัคท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ พิจิตรพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ทั้งท้าทายและเติมเต็มจิตวิญญาณนักผจญภัยของคุณได้อย่างแท้จริง

พิจิตร จังหวัดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และกิจกรรมแอดแวนเจอร์สุดมันส์ที่รอให้คุณไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นล่องแก่งในลำน้ำสายเล็ก ๆ พายคายัคท่ามกลางธรรมชาติ เดินป่าชมวิว หรือแม้แต่ปั่นจักรยานฝ่าทุ่งนาและภูเขา ที่นี่คือจุดหมายที่สายแอดเวนเจอร์ไม่ควรมองข้าม

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของสายลุยเมื่อมาเยือนพิจิตร คือล่องแก่งในลำน้ำวังจิกที่มีทั้งความสนุกและความท้าทาย เส้นทางน้ำไหลผ่านป่าเขียวขจี บางช่วงมีเกาะแก่งให้ตื่นเต้น เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมือโปร การล่องแก่งที่นี่ยังคงความดิบของธรรมชาติไว้ได้อย่างดี ทำให้รู้สึกเหมือนได้หลุดพ้นจากโลกเมือง

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก: ผจญภัยสุดมันส์ในภาคเหนือ

ลำน้ำเข็กตั้งอยู่ในอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นลำน้ำขนาดกลางที่ไหลมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และไหลขนานไปกับถนนทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก)

ไฮไลต์ของการล่องแก่งลำน้ำเข็ก

• ระยะทาง: ประมาณ 8 กิโลเมตร
• จำนวนแก่ง: 17 แก่ง
• ระดับความยาก: ตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 5 เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักล่องแก่งมืออาชีพ
• ระยะเวลา: ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับน้ำ

แก่งที่น่าสนใจ

• แก่งซาง: กระแสน้ำลดระดับลงอย่างรวดเร็ว และมีการหักศอกเลี้ยวซ้าย ทำให้ต้องเตรียมตัวให้ดี
• แก่งนางคอย: เต็มไปด้วยโขดหินและเกาะแก่งต่าง ๆ ใต้น้ำ บางครั้งกระแสน้ำที่ไหลกระทบชั้นหินอาจมีความสูงถึง 2 เมตร
• แก่งยาว: มีระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร มีจุดที่ลดระดับลาดเอียงเทลงแบบฉับพลัน

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

ฤดูล่องแก่งที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสน้ำไหลแรงและเหมาะสำหรับการล่องแก่ง

การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงสิงห์บุรี แล้วแยกเข้าทางสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 11) จนถึงทางหลวงหมายเลข 12 ที่อำเภอวังทอง เลี้ยวขวาไปทางอำเภอหล่มสักประมาณกิโลเมตรที่ 44-52 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง

บึงสีไฟคืออีกหนึ่งสถานที่ที่ผสานความสงบและความตื่นเต้นเข้าไว้ด้วยกัน การพายคายัคที่นี่นอกจากจะได้ออกแรงท้าทายตัวเองแล้ว ยังสามารถชมวิวสวย ๆ ของพระอาทิตย์ตกท่ามกลางพื้นน้ำกว้างใหญ่ เหมาะสำหรับคู่รักหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการประสบการณ์ผจญภัยแบบผ่อนคลาย

แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับการพายคายัคที่บึงสีไฟ แต่บึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีบรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำเช่นการพายเรือหรือคายัค

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

การพายคายัคในช่วงเย็นจะทำให้คุณได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามเหนือผืนน้ำของบึงสีไฟ

การเดินทาง

บึงสีไฟตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

สายแอดเวนเจอร์สายถีบไม่ควรพลาดเส้นทางจักรยานรอบเมืองเก่าพิจิตร ที่คุณจะได้สัมผัสทั้งวัดโบราณ วิถีชีวิตชาวบ้าน และทิวทัศน์ของธรรมชาติแบบเรียล ๆ เป็นการผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กับกิจกรรมกลางแจ้งที่ลงตัว

การปั่นจักรยานในจังหวัดพิจิตรเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณ บึงสีไฟ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่สำหรับนักปั่นและผู้รักสุขภาพ

เส้นทางปั่นจักรยานรอบบึงสีไฟ

• ระยะทาง: 10.28 กิโลเมตร
• ความกว้าง: 10.28 เมตร

ความหมายของตัวเลข: เลข 10 หมายถึง ในหลวงรัชกาลที่ 10 และเลข 28 หมายถึง วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เส้นทางนี้ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานและการวิ่งออกกำลังกาย โดยมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักปั่นจักรยาน

สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข

ภายในพื้นที่บึงสีไฟ ยังมี สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข ซึ่งได้รับนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
ผู้จัดการออนไลน์

การแข่งขันจักรยานระดับชาติ

จังหวัดพิจิตรได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานระดับชาติหลายรายการ เช่น ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย และ ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All โดยใช้เส้นทางรอบบึงสีไฟเป็นสนามแข่งขันหลัก

การเดินทาง

บึงสีไฟตั้งอยู่ในอำเภอเมืองพิจิตร สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

พิจิตรอาจไม่ใช่ชื่อแรกที่คุณนึกถึงเมื่อพูดถึงการผจญภัย แต่ถ้าคุณเปิดใจ ที่นี่จะมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่แปลกไม่เหมือนใคร ตั้งแต่กิจกรรมกลางแจ้งสุดมันส์ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์และสงบ ใครที่เบื่อเส้นทางเดิม ๆ ลองปักหมุดพิจิตรไว้ในลิสต์ทริปผจญภัยครั้งต่อไป แล้วคุณจะหลงรักความแอดแวนเจอร์ที่ไม่เหมือนใครของที่นี่

สถานที่ท่องเที่ยในไทยมากมายที่รอคุณค้นหา รวมกิจกรรมแอดเวนเจอร์ พัทลุง , ผจญภัยใน พังงา สนุกสุดขั้วกับกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม